วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จับตา Agelกระแสธุรกิจออนไลน์ทำอย่างไร?




จับตา กระแสธุรกิจเครือข่ายบนโลกออนไลน์ ได้เงินจริง หรือ หลอก?

ปัจจุบันการทำสื่อโฆษณาบนโลกอินเตอร์เน็ท มีกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เป็นเหตุให้กระแสธุรกิจออนไลน์มองเห็นความสำคัญและเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะโฆษณาผ่านสื่ออินเตอร์เน็ท เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการสินค้า ผลิตภัณฑ์ แหล่งซื้อ-ขาย แหล่งลงทุน หรือ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ เว็บไซต์ที่มีผู้คนใช้บริการหาข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้แก่ Google, sanook,yahoo,bing เป็นต้น และเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ Google จนมีคำติดปากว่า “คิดอะไรไม่ออก บอก กูเกิล”
กระแสธุรกิจบนโลกออนไลน์จึงมีอิทธิพลต่อผู้ประกอบการ ขนาดใหญ่ กลาง เล็ก และ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ต่างมองเห็นความสำคัญของโลกอินเตอรเน็ท google เป็นเว็บไซต์ที่ได้ส่วนแบ่งการตลาดจากการลงสื่อโฆษณาถึง 76%
Mr. Robert Kiyosaki (โรเบิร์ต คิโยซากิ) ผู้เขียนหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก”( Dad Rich Dad Poor) ในปี 1997 (2540) เขากล่าวถึงระบบธุรกิจเครือข่ายไว้อย่างน่าฟังมาก
นี่เป็นตัวอย่างคำพูดของ โรเบิร์ต: ลำดับแรก
E หมายถึง Employee ลูกจ้างS หมายถึง Self Employ/Small Business ธุรกิจส่วนตัวB หมายถึง Business Owner/Big Business เจ้าของกิจการ เช่น ไมโครซอฟ, อินเทล
I หมายถึง Investor นักลงทุน
พ่อจนของผมและคนส่วนใหญ่ได้ถูกสอนมาให้ “ไปเรียนหนังสือ และออกมาหางานทำ” พ่อจนของผมได้โปรแกรมผมให้อยู่ด้าน E หางานที่มั่นคง ทำงานหนัก เพื่อเงินบำนาญ สวัสดิการ
S หมายถึง Small Business หรือ Self Employed ธุรกิจส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพ แพทย์ นักกฎหมาย ทนายความ หรือ นักธุรกิจขนาดเล็กที่พอใจที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง ต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง เช่นที่ Dale แห่งบริษัทคอมพิวเตอร์เดล พูดว่า “ถ้าคุณต้องการทำอะไรให้ถูกต้องเสมอ คุณต้องทำด้วยตัวของคุณเอง” และคนส่วนนี้ก็จะกลายเป็น S พวกเขาต้องการอิสระ
ธุรกิจขนาดใหญ่จะอยู่ทางด้าน B นักธุรกิจขนาดใหญ่ๆ เช่น Bill Gate ผู้ก่อตั้งธุรกิจขนาดยักษ์หลายล้านๆ เหรียญสหรัฐเป็นธุรกิจนานาชาติ ซึ่งก็มีไม่กี่คนที่เป็นคนร่ำรวยระดับโลกแบบนี้ คนร่ำรวยระดับโลกจะมาจากด้าน B คุณไม่มีทางเป็นคนร่ำรวยได้ถ้าคุณยังอยู่ด้าน E และ S
ส่วนด้าน I คือ Investor นักลงทุน จะมาได้จากการใช้เงินทำงานให้เขาเท่านั้น พ่อจนและแม่จนของผมอบรมให้ผมกลายเป็น E และ S และระบบการสอนในโรงเรียนก็สอนผมให้กลายเป็น E และ S มุ่งสู่การหางานที่มั่นคงและปลอดภัย ด้าน B และ I เป็นด้านสำหรับคนรวย พ่อรวยของผมพูดว่า “ถ้าเธอต้องการร่ำรวย ต้องสร้างธุรกิจของเธอเอง” พ่อจนของโรเบิร์ต คือพ่อแท้ๆของเขา อาชีพเป็นครู ถูกให้ออกจากงานตอนอายุ50ปี ส่วนพ่อรวยของโรเบิร์ตคือ พ่อของเพื่อนสนิทของเขาเอง ซึ่งเรียนจบแค่ระดับมัธยมก็ไม่เรียนต่อ
โรเบิร์ต: คนส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะสร้างธุรกิจแบบ B ได้เพราะคุณต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ถึง 10 ปี ในการสร้างธุรกิจแบบ B ซักหนึ่งตัว และสถิติความล้มเหลวก็สูงมากถึง 90% ใน 5 ปีแรก และการสร้างธุรกิจแบบ B ปัจจุบันต้องใช้เงินทุนสูงถึง 5 ล้านเหรียญต่อปี เพียงแค่สร้างมันเท่านั้นนะครับ และถ้าคุณล้มเหลวคุณก็จะเป็นหนี้มหาศาล เป็นสาเหตุที่หลายๆ คนล้มละลาย และผมเองก็เจ๊งถึง 2 ครั้ง ถึงกับล้มละลายทำให้เสียหายหลายล้านเหรียญ หลายๆ ครั้งผมต้องใช้เวลาถึง 10 ปี จึงจะเริ่มรับเงินเป็นผลกำไร คนส่วนใหญ่ในด้าน E และ S ไม่สามารถรับกับสภาวการณ์ทางการเงิน ทั้งทางด้านอารมณ์ และ ความคิด แล้วพวกเขาก็ไม่รู้วิธีการเข้าสู่ด้าน I การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แบบนักลงทุนที่ถูกต้องแบบที่ผมได้รับการฝึกฝนมา
ดังนั้น ถ้าคุณต้องการสร้างธุรกิจของคุณมีทางหนึ่ง คือ คิดสร้างระบบของคุณขึ้นมาเอง ซึ่งผมก็ได้พยายามหลายครั้ง ผมมีโรงงาน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ บริษัทน้ำมัน ผมถูกฝึกมาให้ทำธุรกิจแบบนั้น แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้แบบนั้น คุณก็สามารถเริ่มธุรกิจแฟรนไชน์เหมือน Mc Donald เป็นแฟรนไชน์ที่ดี แต่ปัญหาก็ คือ คุณต้องใช้เงินหลายล้านเหรียญเช่นกันในการเริ่มธุรกิจ และก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณในช่วง 2 ปีแรก
แต่มีทางเลือกที่สาม ที่ผมคิดว่าเป็นความได้เปรียบทางด้านข้อมูลข่าวสาร ทำให้คุณก้าวสู่ด้าน B ได้นั้น คือ การตลาดเครือข่าย หรือ Network Marketing หลายคนมีความคิดลบๆ กับธุรกิจนี้และในความเป็นจริงผมก็ไม่ได้ทำธุรกิจเครือข่าย หลายคนมีความคิดลบๆ กับคำว่า การตลาดเครือข่าย นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจว่าการตลาดเครือข่ายที่แท้จริงคืออะไร คนรวยทั้งหลายในโลกนี้ล้วนสร้างเครือข่ายทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น เครือข่ายโทรทัศน์ คนรวยของโลกเป็นเจ้าของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ (อาทิ เจ้าของ CNN), โทรศัพท์เครือข่าย เป็นเครือข่ายสถานีบริการโทรศัพท์ที่ให้บริการไปทั่วโลก พ่อรวยเคยพูดกับผมว่า “คนรวยสร้างเครือข่าย ในขณะที่คนทั่วไปมองหางานทำ” ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณได้รับการฝึกฝนมา การตลาดเครือข่ายในมุมมองของผมเป็นหนทางที่ชาญฉลาดมาก สำหรับคนที่มีทุนน้อย และคุณอาจใช้เวลาซัก 5 ปีด้วยเงินลงทุนเพียงเล็กน้อย ในการเริ่มต้นสร้างทรัพย์สินขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้คุณมีอิสรภาพด้านการเงินได้ ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่ให้เวลานานเพียงพอต่อธุรกิจนี้ พวกเขาไม่มีการตัดสินใจ ความมุ่งมั่นศรัทธาที่จะยึดมั่นอยู่กับธุรกิจ แถมยังมีเพื่อนหรือคนที่รู้จักที่มีแต่ความคิดลบๆ ต่อการตลาดเครือข่าย ผมต้องขอย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ได้สร้างรายได้จากธุรกิจการตลาดเครือข่าย ผมสร้างระบบธุรกิจของผมเอง
ผมเคยมีความคิดลบ ๆ เช่นกัน จนกระทั่งผมได้คิดใคร่ครวญ และเริ่มเปิดใจศึกษา เปลี่ยนมุมมองที่ต่างออกไป และฟังข้อมูลจากเพื่อนผมที่เป็น CEO (Chef Executive Officer/หัวหน้าฝ่ายบริหารสูงสุด) และก็เริ่มเห็นคุณค่าของการตลาดเครือข่ายอย่างแท้จริง การตลาดเครือข่าย คือ ช่องทางให้คนทั่วไปผู้ซึ่งไม่มีเงินลงทุนมากนัก ทั้งยังสามารถทำงานปัจจุบันช่วงกลางวัน แล้วก็ใช้เวลาหลังเลิกงานสร้างทรัพย์สินที่ทำให้พวกเขามีอิสรภาพได้
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จในการตลาดเครือข่ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ ผมขอ แนะนำคือ จงอยู่ในธุรกิจนี้ให้นานอย่างน้อย 3, 4 หรือ 5 ปี เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับคือ คุณได้รับความรู้ และความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขอบคุณหนังสือ พ่อรวยสอนลูก Mr.Robert Kiyosaki ผู้จุดประกายที่ทำให้เรามองเห็นความสำคัญของตัวเอง:

คำถามท้ายบทความ
1.: ตอนนี้คุณอยู่ในหมวดของ E,S,B,I ?. คิดว่าคุณมีคำตอบสำหรับตัวเองแล้ว
2: ถ้าคุณเลือกได้ คุณอยากอยู่ในหมวดไหน?. ตอบตัวคุณเอง
3: ถ้าคุณมีเงินทุน 10,000บาท คุณจะลงทุนทำธุรกิจอะไร?.
4: คุณรู้จักระบบเครือข่ายบริษัท เอเจล อินเตอร์ไพร์?
5.คุณรู้จักวิธีการลงโฆษณาบนหน้าเว็บ Google โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ?
ถ้าคนเป็นคนหนึ่งที่อยากเรียนรู้ระบบโฆษณาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆและสามารถขึ้นหน้า 1 ของ google ได้ กรุณาติดต่อ คุณตุ๊ก 085 1454547 หรือส่ง e-mailมาได้ที่ agel_goodlife.com, mailto:tuk.kota@gmail.com%20เรายินดีสอนวิธีการทำงานให้คุณฟรี เพียงแค่คุณมีความจริงใจ ตั้งใจ อยากร่วมงานกับเรา คลิ๊กที่นี่เพื่อดู แผนการตลาดและแผนรายได้ www.i-amagel.com/?id=agelwells